Last updated: 20 Oct 2023 |
โลกรู้ ทุกคนรู้ ว่าเมืองไทยแดดแรงมาก ด้วยเหตุนี้ ทำให้สาว ๆ หลายคนต้องเจอกับปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ ตั้งแต่วัย 30+ ต้น ๆ ทำเอาหลายคนเสียความมั่นใจกันไปไม่น้อย
แต่ทุกคนไม่ต้องกังวลไป เพราะปัจจุบันนี้ มีวิธีรักษาฝ้า กระ มากมายหลายรูปแบบ ซึ่งทางเราได้รวบรวมมาให้ในบทความนี้แล้ว ไปดูกันเลยว่าแต่ละวิธีมีจุดเด่น ข้อดี ข้อเสียอย่างไร และวิธีไหนที่เหมาะกับผิวคุณ!
วิธีนี้ถือเป็นวิธีรักษาฝ้า กระ อันดับต้น ๆ ที่หลายคนเลือกใช้ เนื่องจากเป็นวิธีที่สุดแสนจะง่าย และไม่เจ็บตัว โดยส่วนใหญ่แล้ว ครีมทาฝ้าหรือเซรั่มรักษาฝ้า จะมีส่วนประกอบของวิตามินซี (Vitamin C) , สารผลัดผิวกลุ่ม PHA AHA และอาร์บูติน (Arbutin) ที่จะช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานิน ต้นเหตุที่ทำให้เกิดฝ้า ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า เผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสกว่า ทำให้ฝ้า กระ ค่อย ๆ จางลงได้ แต่วิธีนี้ต้องอาศัยความสม่ำเสมอ และใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล
สำหรับครีมทาฝ้าบางชนิด ที่ส่วนผสมหลักมาจากไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) สารเคมียอดฮิตในครีมหน้าขาว ก็มีข้อควรระวังในการใช้ เพราะถึงแม้ไฮโดรควิโนน จะมีคุณสมบัติในการยับยั้งการสร้างเม็ดสี ลดเลือนฝ้า กระ ให้จางลงได้ แต่หากใช้ในปริมาณมากเกินไป (ไม่ควรใช้เกิน 2%) จะก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อผิวได้ เช่น เกิดผื่นแพ้ แสบแดง เกิดรอยด่างขาวบนใบหน้า จึงควรใช้ครีมประเภทนี้ภายใต้การดูแลของแพทย์
วิธีรักษาฝ้าด้วยการเลเซอร์ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่เห็นผลเร็ว และได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยวิธีนี้เป็นการกำจัดฝ้า โดยใช้แสงเลเซอร์ในการทำลายเซลล์สร้างเม็ดสี (melanocyte) ด้วยความร้อน ทำให้ฝ้า กระ ค่อย ๆ จางลง
ประเภทของเลเซอร์มีมากมายหลายรูปแบบ เช่น
วิธีรักษาฝ้าด้วยการเลเซอร์ ต้องอาศัยการทำซ้ำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และภายหลังการเลเซอร์ ผิวหน้าอาจมีอาการบวม แดง ผิวไวต่อแสง จึงควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดประมาณ 1 สัปดาห์ และทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ
การใช้เทคโนโลยี IPL (Intense Pulsed Light) เพื่อรักษาฝ้าบนใบหน้า คล้ายกับการทำเลเซอร์ เห็นผลเร็ว ที่สำคัญทำแล้วเจ็บน้อย หรือไม่เจ็บเลย ผลข้างเคียงต่ำ และไม่จำเป็นต้องทายาชาเหมือนการทำเลเซอร์
หลักการทำงาน คือ ใช้แสงที่มีความเข้มข้นสูงและคลื่นแสงที่แตกต่างกัน เพื่อให้ความร้อนเข้าไปทำลายเซลล์สร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้ฝ้า กระ ค่อย ๆ จางลง ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
การรักษาฝ้าด้วย IPL ควรทำซ้ำอย่างต่อเนื่องทุก ๆ 2 สัปดาห์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และควรทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ
การกรอผิวด้วยเทคนิค MD (Microdermabrasion) เป็นการกรอผิวด้วยการพ่นผงคริสตัล (Crystal) ที่มีขนาดเล็กลงบนผิวหน้า จะช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นนอก กำจัดสิ่งสกปรกให้หลุดออก และกระตุ้นการสร้างผิวใหม่ขึ้นมาแทนที่ จึงช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น ฝ้า กระ จุดด่างดำ ดูจางลง นอกจากนี้ยังช่วยลดรอยเหี่ยวย่นได้ด้วย
การรักษาฝ้าด้วยวิธีนี้ ต้องอาศัยการทำซ้ำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และภายหลังการทำอาจพบรอยแดง รอยคล้ำได้ แต่อาการเหล่านี้จะหายไปในระยะเวลาอันสั้น เพียง 1-2 วัน เท่านั้น
การรักษาฝ้าด้วยวิธีนี้ นอกจากจะใช้งบน้อย ราคาถูก ยังปลอดภัยต่อผิวอีกด้วย โดยสมุนไพรใกล้ตัวที่มีสรรพคุณช่วยลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ อาทิเช่น
ใครที่เริ่มมีปัญหาฝ้า กระ กวนใจ ลองนำวิธีข้างต้นไปใช้ ควบคู่กับการทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าที่เหมาะสม รวมทั้งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ผิวของเราจะได้สวยใส ไร้ฝ้า กระ กวนใจอย่างแน่นอน!
แก้ทุก Step ฝ้า ยับยั้งการเกิดฝ้าตั้งแต่ต้นตอ ด้วย “Merci Vitamin C Melasma & Dark Spot Serum” เซรั่มสูตรทาฝ้าที่ผ่านเทคโนโลยีขั้นสูง ช่วยจัดการฝ้า กระ จุดด่างดำได้อย่างตรงจุด เห็นผลชัดเจนใน 2 สัปดาห์ ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติมากกว่า 10 ชนิด
เพียงหยดเซรั่ม 1-2 หยด ทาทั่วใบหน้าทั้งเช้าและก่อนหน้า ก็เตรียมบอกลาปัญหาฝ้ากวนใจไปได้เลย สนใจสั่งซื้อสินค้า คลิกที่นี่!
ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก
5 Nov 2024
11 Sep 2024
3 May 2024